ชื่อเรื่อง : การพัฒนาการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกทักษะ
การอ่านและเขียนคำที่ประสมสระเดี่ยว
เสียงยาวประกอบการจัดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
ชื่อผู้วิจัย : ยุวรี
แก้วคำไสย์ ตำแหน่ง ครู
วิทยฐานะครูชำนาญการ
ประเภทผลงานวิชาการ
:
ผลงานวิจัย
ปีที่วิจัย : 2557
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้เป็นการพัฒนาการจัดการเรียนการสอน ด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านและเขียนคำที่ประสมด้วยสระเดี่ยวเสียงยาวมีวัตถุประสงค์เพื่อ1.) เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านและเขียนคำที่ประสมสระเดี่ยวเสียงยาว ประกอบการจัดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2.) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและเขียนคำที่ประสมสระเดี่ยวเสียงยาว
ประกอบการจัดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน 3.) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและเขียนคำที่ประสมสระเดี่ยวเสียงยาว ประกอบการจัดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน 4.) เพื่อประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้
โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและเขียนคำที่ประสมด้วยสระเดี่ยวเสียงยาว ประกอบการจัดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน
กลุ่มที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่
1/2 ปีการศึกษา 2557
โรงเรียนบ้านสิริขุนหาญ ตำบลสิ อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ จำนวน
31 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย1.) แบบฝึกทักษะการอ่านและเขียนคำที่ประสมสระเดี่ยวเสียงยาวประกอบการจัดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน
จำนวน 9 ชุด 2.) แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่องการอ่านและเขียนคำที่ประสมสระเดี่ยว
เสียงยาว
ประกอบการจัดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน จำนวน
1 หน่วยการเรียนรู้ จำนวน 11 แผนการเรียนรู้ 3.) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
เรื่องการอ่านและเขียนคำที่ประสมสระเดี่ยวเสียงยาวประกอบการจัดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน
ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น เป็นข้อสอบแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 3 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ 4.)
แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและเขียนคำที่ประสมสระเดี่ยวเสียงยาว ประกอบการจัดกิจกรรมตามแนวคิดการใช้สมองเป็นฐานจำนวน 18 ข้อ มีลักษณะเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (RatingScale) ตามวิธีของลิเคิร์ท (Likert)
มี 5 ระดับ
ผลการวิจัยพบว่า
แบบฝึกทักษะการอ่านและเขียนคำที่ประสมสระเดี่ยวเสียงยาวประกอบการจัดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐานมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้ โดยเฉลี่ยเท่ากับ 93.90/93.01
ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้
ค่าดัชนีประสิทธิผลของการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและเขียนคำที่ประสมสระเดี่ยวเสียงยาว ประกอบการจัดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน
มีค่าเท่ากับ 0.79 แสดงว่านักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้น
ร้อยละ 79 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่
1/2
ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและเขียนคำที่ประสมสระเดี่ยวเสียงยาว ประกอบการจัดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน
มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนเพิ่มขึ้นจากก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
และนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/2
มีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและเขียนคำที่ประสมสระเดี่ยวเสียงยาว ประกอบการจัดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (
=
4.86)
โดยสรุป ประโยชน์ที่นักเรียนได้รับจากการวิจัยค้นคว้าครั้งนี้ คือ นักเรียนมีพัฒนาการด้านสติปัญญา
เกิดความคิดรวบยอด มีความกระตือรือร้นที่จะศึกษาค้นคว้า
เกิดความสนุกสนานเพลิดเพลิน และมีแบบฝึกทักษะที่มีประสิทธิภาพไปใช้ในการจัดการเรียนรู้
สามารถแก้ปัญหาการเรียนรู้ของนักเรียนที่เกิดจากการจัดการเรียนรู้แบบเดิม
และสามารถนำไปใช้สำหรับการเสริมสร้าง
และซ่อมเสริมนักเรียนเป็นแนวทางสำหรับการปรับปรุงและพัฒนาประสิทธิภาพการจัดการเรียนการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยต่อไป
|