ชื่อเรื่อง           ผลการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้จากประสบการณ์และสื่อมัลติมีเดีย

                     กลุ่มสาระการเรียนรู้  การงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่อง เทคโนโลยีสารสนเทศและ

                     การสื่อสาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

ผู้ศึกษา           นางสาวทิพาภรณ์  ประดู่   

หน่วยงาน        โรงเรียนบ้านสิริขุนหาญ  ตำบลสิ   อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ 

สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ 

บทคัดย่อ

            การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ (1) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้จากประสบการณ์และสื่อมัลติมีเดีย กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่อง เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 (2) เพื่อหาดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้จากประสบการณ์และสื่อมัลติมีเดีย กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่อง เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร                 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 (3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนระหว่างก่อนเรียนและ  หลังเรียน โดยการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้จากประสบการณ์และสื่อมัลติมีเดีย กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่อง เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 (4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้จากประสบการณ์และสื่อมัลติมีเดีย กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่อง เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/3 โรงเรียนบ้านสิริขุนหาญ  อำเภอขุนหาญ จังหวัด    ศรีสะเกษ  จำนวน 31 คน กำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557 ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้จากประสบการณ์และสื่อมัลติมีเดีย กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่อง เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 13 แผน สื่อมัลติมีเดีย เรื่อง เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร จำนวน 1 ชุด  แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง เทคโนโลยีสารสนเทศและ   การสื่อสาร เป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ ซึ่งมีค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่        .31 - .90  และค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .96 แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วย  ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 20 ข้อ ค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .91 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบค่าที        (t – test dependent samples)